Sunday, November 30, 2008

:: u n z e e n :: สิ่งที่มีกับสิ่งทีเป็น

[]

Join this group, go to website ' http://groups.google.com/group/unzeen '
or send blank e-mail to ' unzeen-subscribe@googlegroups.com '

' Please keep your inbox empty to keep your membership status active. '
 
 
ให้เช่าคอนโด"เตาปูนแมนชั่น" บางซื่อ
ติดกับบริษัท ปูนซิเมนท์ไทย ใกล้โลตัสประชาชื่นและรถไฟใต้ดิน
พร้อมเฟอร์นิเจอร์ ((ทีวี แอร์ ตู้เย็น เครื่องทำน้ำอุ่น เตียง ตู้ โซฟาฯลฯ)) พร้อมเข้าอยู่
เดือนละ 6,500 บาท มัดจำ 2 เดือน
สนใจติดต่อ 084-461-4343
-เจ้าของให้เช่าเอง ไม่ผ่านโครงการหรือนายหน้า-
-ไม่ขาย ให้เช่าเท่านั้น-





~ สิ่งที่ตนมีและตนเป็น ~
 

นานมาแล้ว เทพเจ้าเรียกบรรดาสัตว์มาชุมนุมกัน

เพื่อถามถึงความพอใจในรูปร่างหน้าตาของพวกเขา

ภาพเคลื่อนไหว
 
" เจ้าลิง เจ้าเป็นสัตว์ที่มีความรู้สึกไว
ลองมองดูเพื่อนๆ ของเจ้าสิ เจ้าอยากมีอะไรเหมือนเขาบ้าง ? " เทพเจ้าถาม

" ข้ารึ .. ทำไมข้าถึงจะต้องการอะไรที่แตกต่างไปจากนี้ละ?

ข้ามิได้มี 4 เท้าเหมือนสัตว์อื่นรึ - หน้าตาข้าไม่ดีเท่าสัตว์อื่นรึ? ดูพี่หมีซิ

เมื่อเทียบกับข้าแล้วเขาดูเหมือนภาพเขียนสีน้ำมันหยาบๆ ใครนะช่าเขียนเขาขึ้นมาได้ ? " เจ้าลิงตอบ

เจ้าหมียืนขึ้น 2 เท้า บรรดาสัตว์ต่างคิดว่า
เขาคงบ่นถึงความอัปลักษณ์ของตัวเอง แต่มันกลับพูดขึ้นว่า

" ข้าคิดว่า หันไปดูเจ้าช้างดีกว่า ดูสิ หางก็น่าเกลียด หูก็ใหญ่ มันเป็นสัตว์ตัวใหญ่เทอะทะเกินไป "


" ข้าคิดว่าเจ้าปลาวาฬต่างหากที่ทั้งใหญ่ทั้งอ้วน น่าเกลียด" เจ้าช้างตอบ
 
ภาพเคลื่อนไหว

ส่วนมดก็กล่าวหาว่า ตัวหมัดมีรูปร่างผอมมากจนดูไม่ได้ ในขณะที่มันมีรูปร่างดีที่สุดในบรรดาแมลง

ในที่สุดเทพเจ้าก็รำคาญส่งสัตว์ทั้งหลายกลับเข้าป่าไปเพื่อชื่นชมโอ้อวดตัวเองและตำหนิผู้อื่น..
 
 
 
.....................


มนุษย์เราก็เช่นกันมิใช่หรือ


คนส่วนมากฉลาดที่จะมองข้อเสียของผู้อื่น และมักมองไม่เห็นข้อเสียของตัวเอง

และหากเขามองเห็นข้อเสียของตัวเองก็มักทำเป็นลืมไปเสียโดยเร็ว

เปรียบเสมือนกับคนที่มีกระเป๋า 2 ใบอยู่ ด้านหน้า และ ด้านหลัง

กระเป๋าหลังใส่ความผิดของตัวเองทำให้มองไม่เห็นอย่างถนัด

ส่วนกระเป๋าหน้าใส่ความผิดของผู้อื่น

ซึ่งสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน



นิทานเรื่องนี้สอนว่า ถ้าคนเราไม่สามารถที่จะพอใจในสิ่งที่ตนมีและตนเป็น เขาก็คงไม่พอใจอยู่ดี


แม้ว่าโลกนี้ทั้งโลกเป็นของเขา

No comments: