Thursday, January 31, 2008

:: u n z e e n :: แก้ไขคำผูกมัดจากชาติปางก่อน

[]

[]

ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา
เช่น เราจะรักกันทุกชาติไป
โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน
ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไป
แต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่
อาจจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้คุณยังเป็นโสดจนทุกวันนี้
ลองสวดมนต์บทนี้ดูอาจจะดีขึ้นนะ คำขอขมาและอธิษฐานจิต
อธิษฐานหน้าพระพุทธรูป หรือสวดก่อนนอนก็ได้
 
ตั้งนะโม 3 จบ
 
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ทะวารัตตะเยนะ กะตัง
สัพพัง อะปะราธัง ขะมะถะเม ภันเตอุกาสะ ขะมามิ ภันเต
 
'หากข้าพเจ้า จงใจหรือประมาทพลาดพลั้ง ล่วงเกินบิดา-มารดา
ครูบาอาจารย์ พระพุทธ พระธรรม พระอรหันต์ทุกพระองค์พระอริยสงฆ์เจ้า
ตลอดจนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายรวมถึงผู้มีพระคุณ
และท่านเจ้ากรรมนายเวร จะด้วย กาย วาจา ใจก็ดี
ขอได้โปรดอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าด้วยหากข้าพเจ้ามีเจ้าของในตัวติดตามมา
ขออนุญาตมีคู่มีครอบครัวได้เหมือนคนปกติทั่วไป ขอถอนคำอธิษฐาน
คำสาบานที่จะติดตามคู่ในอดีต
ขอให้ต่างฝ่ายต่างเป็นอิสระต่อกัน
ข้าพเจ้าจะประพฤติตนในทางที่ถูก ที่ชอบ ที่ควร
ขอบุญบารมีในอดีตกาลที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน
จงส่งผลให้ข้าพเจ้าและครอบครัว
ตลอดจนบริวารที่เกี่ยวข้องจงเจริญด้วย อายุ วรรณะ สุขะ พละ
ลาภ ยศ สุข สรรเสริญ สติปัญญา ปฏิภาณ ธนสารสมบัติ อุปสรรคใดๆ
โรคภัยใดๆขอให้มลายสิ้นไป ขอให้ข้าพเจ้ามีความสว่างทั้งทางโลก
ทางธรรมตั้งแต่บัดนี้ตราบเข้าสู่พระนิพพานเทอญ
หากมีผู้ใดเคยสร้างเวรสร้างกรรมกับข้าพเจ้า
ไม่ว่าจะชาติใดภพใดก็ตาม ข้าพเจ้ายินดีอโหสิกรรมให้
ขอถอนความพยาบาท ความอาฆาต และคำสาปแช่งในทุกชาติทุกภพ
ขอให้ข้าพเจ้าพ้นจากคำสาปแช่งของปวงชนของเจ้ากรรมนายเวร'
 
คนเราเกิดมาหลายภพหลายชาติ
แต่ละคนมีเจ้ากรรมนายเวรที่แตกต่างกัน
การสวดขอขมาเพื่อลดและปลดหนี้กรรมให้น้อยลง
 
( คาถาบทนี้ เป็นคาถาที่ใช้สำหรับขอขมาพระรัตนตรัย
และใช้เพื่อถอนคำสาปแช่ง ในอดีตชาติ ที่ติดตามมา
เพราะเราไม่รู้ว่าเคยได้ล่วงเกินปรามาสใครไปบ้างก็ไม่รู้ไม่เว้นแม้กระทั้ง
พระพุทธองค์ พระอรหันต์ พ่อ แม่ เป็นต้น
เพราะบางคนทำการใดๆ มักมีอุปสรรค หรือมักมีคนไม่ชอบหน้า

Wednesday, January 30, 2008

:: u n z e e n :: แต่งตัวตุ๊กตา

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

:: u n z e e n :: Cute no.404

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

:: u n z e e n :: ทำไมง่วงซึมหลังมื้อเที่ยง

[]

[]


คาร์โบไฮเดรต สาเหตุแรกคือมื้อเที่ยงของคุณนั้นอุดมไปด้วยอาหารประเภทแป้ง และน้ำตาล หรือคาร์โบไฮเดรตปริมาสูงแต่กินโปรตีนต่ำ

คือไม่ค่อยเน้นเนื้อสัตว์ หรือถั่ว ประเด็นนี้นักวิจัยจาก University of Sussex ในอังกฤษ ได้สังเกตการณ์นักเรียนที่มีประสบการณ์การกินมื้อเที่ยงอย่างเต็มคราบ หลังจากนั้นเขาจะมีอาการเหมือนกับอดนอนมา นักวิจัยเล่าว่าเป็นเพราะการกินอาหารมื้อใหญ่ๆ นั้นทำให้เลือดส่วนใหญ่ระดมไหลมาที่กระเพาะอาหารเพราะต้องทำการย่อยอาหารปริมาณมากให้เสร็จสิ้น ทำให้เลือดไหลหมุนเวียนไปสู่ส่วนอื่นๆ ของร่างกายน้อยลง จึงทำให้พลังงานโดยรวมลดลง โดยเฉพาะในส่วนสมองจึงทำให้รู้สึกง่วงซึม เฉื่อยชา 

            งานวิจัยอีกชิ้นหนึ่งพบว่าอาหารคาร์โบไฮเดรตสูงและโปรตีนต่ำ ยังเป็นตัวบ่งชี้ว่าทำให้มีการหลั่งสารเคมีในสมองที่มีความสัมพันธ์กับความง่วงนอนออกมามากด้วย เช่น เซโรโทนิน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทสมองที่สัมพันธ์กับการนอนหลับ

            เมื่อเร็วๆ นี้นักวิทยาศาสตร์ของ Food and Nutrition Research Institute ในมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ให้ความสนใจเจาะจงลงไปในเรื่องของระดับน้ำตาลในเลือดว่ามีผลเกี่ยวพันกับอาหารที่กินเข้าไปซึ่งเป็นเหตุหนึ่งที่ทำให้รู้สึกกระฉับกระเฉงหรือเฉื่อยชาหลังการกินอาหาร ซึ่งพบว่าข้าวก็เป็นอาหารชนิดหนึ่งที่สามารถเพิ่มและลดระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างรวดเร็วด้วย
 

            แต่อาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดได้ค่อนข้างต่ำ คืออาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน รวมทั้งผัก ขนมปังธัญพืช ข้าวโอ๊ต ข้าวกล้อง ซึ่งพบว่าอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดต่ำนี้กลับจะให้พลังงานแก่ร่างกายได้ในระยะยาว คุณจะมีพลังงานที่มีประสิทธิภาพอยู่ไปได้ทั้งวัน นักวิชาการยังได้แนะนำอีกว่าการกินอาหารที่เพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดต่ำและมีไขมันต่ำด้วยแล้ว จะทำให้คุณรู้สึกอิ่มนาน และป้องกันอาการเฉื่อยชา ง่วงงุนหลังอาหารเที่ยงได้อย่างดีอีกด้วย อีกทั้งอาหารแบบนี้ยังจะช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันและโรคอ้วนด้วย

            ระดับน้ำตาลขึ้นๆ ลงๆ เป็นที่ชัดแจ้งว่าระดับน้ำตาลในเลือดขึ้นๆ ลงๆ มีผลต่อระดับการสำรองพลังงานของคนเรา รวมทั้งความรู้สึกสดชื่นกระปรี้กระเปร่าหรือเซื่องซึม อ่อนเพลียไร้เรี่ยวแรง ซึ่งโดยปกติร่างกายของเราจะมีระดับน้ำตาลในกระแสเลือดอยู่ระหว่าง 70-110 มิลลิกรัม แต่ในคนที่ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำเกินไป (Hypoglycemia) เป็นเพราะกินคาร์โบไฮเดรตประเภทของหวานและน้ำตาล แอลกอฮอล์ในปริมาณสูง แต่กินผัก ผลไม้ และธัญพืชในปริมาณต่ำ ซึ่งการกินอาหารลักษณะนี้จะทำให้ระดับน้ำตาลและพลังงานขึ้นๆ ลงๆ อารมณ์และสมาธิก็แกว่งไกวไปด้วยเช่นกัน เนื่องจากเกิดความไม่สมดุลของระดับน้ำตาลในเลือด

          นอกจากนี้สัญญาณของระดับน้ำตาลในเลือดต่ำอีกอย่าง คือความรู้สึกอ่อนเพลีย วิงเวียน หัวงงๆ อาจเป็นลม ใจสั่น มีเหงื่อนออกมาก กระวนกระวาย ฉุนเฉียวหงุดหงิด เหตุผลของทั้งปวงมาจากสมองเป็นส่วนที่ไวต่อระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ และกลูโคสคือหลักสำคัญของพลังงานของสมองนั่นเอง ดังนั้นเพื่อให้มีพลังตลอดวันโดยไม่ง่วงควรเลือกกินอาหารที่รักษาระดับน้ำตาลในเลือดได้สม่ำเสมอ ด้วยคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน และโปรตีนไขมันต่ำ ในปริมาณที่พออิ่ม
 

            ควรจะกินอย่างไรให้ได้พลังงานทั้งวันและไม่ง่วงซึม กินอาหารเช้าให้ถูกหลัก คือกินภายใน 1 ชั่วโมงแรกหลังจากตื่นนอน อาหารเช้าที่ดีจะช่วยให้ระดับน้ำตาลในเลือดมีความสมดุลไปตลอดวัน แถมด้วยอาหารประเภทโปรตีนไขมันต่ำปริมาณเล็กน้อยในตอนเช้า และทุกมื้อระหว่างวัน เพราะจะให้พลังงานได้ยาวนาน เช่น ไข่ นมสักแก้ว โยเกิร์ต กับขนมปังธัญพืชปิ้งสักแผ่น
 

          กินอาหารเที่ยงที่ให้พลังงานสูง ประกอบด้วยโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน ซึ่งโปรตีนจะกระตุ้นสารในสมองคือ catecholamines ที่จะทำให้คุณกระฉับกระเฉง ลองเลือกไก่(ต้องทำให้สุกๆ ก่อน) อาหารทะเล เนื้อ เต้าหู้ ถั่วต่างๆ เช่น ถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้ ผักต่างๆ เช่น บล็อกโคลี ผักโขม หน่อไม้ฝรั่ง และผลไม้สัก 1 ส่วน
 

          เลี่ยงสารกระตุ้น เช่น คาเฟอีน บุหรี่ เพราะเป็นตัวทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่งไกว การดื่มกาแฟยังทำให้ปัสสาวะบ่อยด้วยซึ่งเป็นสาเหตุให้ร่างกายสูญเสียน้ำและระดับเกลือแร่
 

          ดื่มน้ำเปล่า เพราะน้ำเปล่าไม่มีแคลอรี่ ไม่มีไขมัน ไม่มีโคเลสเตอรอล แต่จะช่วยระบบการเผาผลาญไขมัน และฟื้นชีวิตชีวาคืนพลังงานให้กับร่างกายด้วย น้ำยังช่วยควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย ลำเลียงออกซิเจน ฮอร์โมน สารอาหาร ภูมิต้านทาน และเพิ่มประสิทธิภาพของโปรตีนและเอนไซม์ที่จำเป็นต่อระบบเมธาบิลิซึมด้วย
 

          หยุดแอลกอฮอล์ เพราะอาจทำให้คุณรู้สึกเซื่องซึม เหตุผลคือร่างกายสูญเสียสารอาหารโดยเฉพาะวิตามินบี (ไธอามีนและโฟเลท) ซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นที่สมองต้องการ

          เลือกกินเมื่อรู้สึกหิว ถ้าคุณรู้สึกเพลียให้กินผลไม้หรืออาหารที่มีส่วนผสมของธัญพืชต่างๆ แทน การกินของขบเคี้ยวที่มีน้ำตาลจะทำให้คุณกระชุ่มกระชวยเพียงชั่ววูบแล้วก็จะหมดแรงลงอย่างรวดเร็ว ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงโซดาหรือน้ำหวานในช่วง ของขบเคี้ยวแก้หิวเพื่อสุขภาพที่ขอแนะนำ เช่น คุ้กกี้ที่ผสมผลไม้ คุ้กกี้ผสมข้าวโอ้ต องุ่นสักพวง โยเกิร์ต แครอท เซเลอรี่ ถั่วอัลมอนด์ เป็นต้น
 

          หลังตาสักงีบ ถ้าคุณรู้สึกว่าง่วงมากจริงๆ อย่าเลือกที่จะดื่มกาแฟ แต่ลองหลับตาหรืองีบสัก 10-15 นาที ก็จะช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้นมาก
 

          อยู่ห่างๆ อาหารไขมันสูง เช่น ชีส เนย มาการีน ครีม อาหารทอดทั้งหลาย เพราะจะมีแคลอรี่สูงร่างกายต้องใช้พลังงานเผาผลาญมาก และจะทำให้คุณรู้สึกเฉื่อยชา
 

          ออกกำลังกาย เป็นทางที่ดีที่จะชาร์ตแบตเตอรี่คืนมาอีกครั้งให้ร่างกายตื่นตัว เมื่อรู้สึกเหนื่อยจนเอนดอร์ฟินหลั่งในระดับสูง ก็จะช่วยให้อัตราการเผลาผลาญของร่างกายมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นด้วย ซึ่งก็จะช่วยฟื้นพลังงานให้คุณ ลองง่ายๆ เดินรอบๆ สำนักงานสัก 10 นาที นั่งอยู่กับโต๊ะทำงานแล้วยืดกล้ามเนื้อ บิดบริหารร่างกายสักครู่ก็จะช่วยเพิ่มความตื่นตัวให้คุณได้พอควร


:: u n z e e n :: เมื่อหัวใจต้องเลือก

[]

[]

[]


เราทุกคนต้องผ่านการเลือกมาบ้างในชีวิต
และคงไม่ใช่แค่ครั้งเดียว


* *  *


สิ่งที่เราตัดสินใจนั้น
อาจทำให้เราพึงพอใจมากน้อย แตกต่างกันไป


* * *


ในเรื่องที่สำคัญของชีวิต
เราย่อมต้องเลือก "สิ่งที่ดีที่สุด" ให้กับตัวเองเสมอ


* * *


การเลือกดังกล่าวนี้ คงไม่ใช่เรื่องยากเย็นมากนัก
ถ้าได้ข้อมูลอ้างอิงหรือที่ปรึกษาที่ดีพอ
แต่ทั้งหมดที่พูดมานั้นอาจไม่เพียงพอ
หรือไม่ใช่คำตอบสุดท้าย

 

* * *



ในเรื่องเกี่ยวกับหัวใจ
บางที...ความรักก็ไม่ได้ต้องการ "สิ่งที่ดีที่สุด"
เท่ากับ "สิ่งที่ถูกใจที่สุด"


* * *



คนที่ดีที่สุด หล่อ สวย รวย เก่ง
อาจไม่ใช่คนที่ทำให้เราถูกใจที่สุดก็ได้
love - ok


* * * 


บางคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต
ให้เราได้พบ ได้รู้จัก หรือถึงขั้นคบหา
ก็อาจไม่ใช่คนๆ เดียวกับที่เราเคยกำหนดมาตรฐาน
หรือตั้ง "สเปก" เอาไว้


 * * *



เพียงแค่ขอให้เขาเป็น "คนที่ใช่"
เราก็พร้อมจะมองข้ามเรื่องของรสนิยม ให้เป็นสิ่งที่รองลงมา


 * * *



สักครั้งหนึ่งในชีวิต...
ฉันคิดว่าเราควรได้ทำบางสิ่งให้กับหัวใจ
นั่นคือการได้เลือกคนที่ถูกใจที่สุดให้ตัวเอง

 


* * *



และไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
เราต้องพร้อมยอมรับผลของการตัดสินใจนั้น
หรือพูดง่ายๆ ว่าควรเผื่อใจไว้ด้วยเสมอ


* * * * * * * * * * *



____________________________________
ปูปรุง
โลกสวยงามขึ้นเมื่อเดินช้าลง. กรุงเทพฯ : ใยไหม,2546

:: u n z e e n :: คุณตกเป็นเหยื่อของการโดนเมาท์หรือเปล่า?

[]

[]



นินทา



เกิดเป็นหญิงแท้จริงยากลำบากจริงๆ เพราะขยับตัวไปทางไหน หรือไปทำอะไรที่ดั๊นขัดอกขัดใจและไม่เข้าตากรรมการเข้าล่ะก็ คุณเธอมักโดน ติฉินนินทา ได้อย่างง่ายดาย แถมบางที ยังไม่ทันได้ทำอะไรให้ใครผิดใจซะหน่อย แต่ถ้ามีสายตาที่ไม่ชอบหล่อนอยู่แล้วมองเข้ามาแล้วรู้สึกขัดตา ก็สามารถโดน วิพากษ์วิจารณ์ ไปต่างๆนานาได้เหมือนกัน

มีเหตุการณ์อะไรบ้าง ที่ทำให้สาวๆตกเป็นขี้ปากชาวบ้านอยู่เรื่อย แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำผิดอะไร ต่อให้ใครจะพูดถึงคุณยังไง ก็อย่าไปสะทกสะท้าน โบราณท่านว่า หากเป็นคนดีซะอย่าง รับรองตกน้ำไม่ไหลตกไฟไม่ไหม้

แต่ว่าตามตรง หากคนเราจะโดนติฉิน นินทาซะอย่าง นั่งเฉยๆก็โดนอ่ะ งั้นยกตัวอย่างที่สาวๆโดนเม้าท์บ่อยละกัน เช่น...

1. ยามมีความรัก ก็มีคนคอยสอดด้วย

ตอนที่สาวรายใดตกหลุมเลิฟใครสักคนเข้า ถ้าไม่โดนแซวว่า เดี๋ยวนี้รู้สึกว่าเธอสดใส และสวยขึ้นผิดตาเชียวนะก็อาจโดนเสียดสีว่า ไปตู่เป็นแฟนเค้าข้างเดียวเรอะเปล่าเนี่ย เห็นเธอชอบพูดถึงเค้าอยู่นั่นแหละว่าเป็นแฟนชั้น แฟนชั้น เอ๊ะ เธอไปตกลงรักกับเค้าแล้วแน่เรอะ เป็นคำพูดที่ยียวนกวนบาทามากเลยนะ แต่ฝ่ายที่ชอบโมเมว่ามีแฟนแล้วก็มีจริงๆแฮะ แล้วแปลกซะด้วยนะ คนมีความรักเนี่ยดูออกกันง่ายซะด้วย เพราะคนมีรักน่ะมักกระชุ่มกระชวยผิดหูผิดตา จริงไหม

2. เมื่อกลับไปคืนดีกับแฟนเก่า ก็โดนปากหอยปากปูพูดถึงอยู่ดี

ถ้าใครไปคืนดีคืนรักคืนกายกับอดีตแฟนเมื่อไหร่ ไม่รู้เป็นไง บรรดาสมาชิกชมรมสู่รู้เรื่องชาวบ้านมักตามมาสังเกตสังกา ความเคลื่อนไหวของเพื่อนหญิงกันอยู่เรื่อย แต่การติดตามความเป็นไปของเพื่อนสาวน่ะอาจไม่ได้ไปซุบซิบนินทาในทางไม่ดีเสมอไปก็ได้นะ ตรงข้าม สมาชิกชมรมเหล่านี้ อาจชมคู่นี้ก็ได้ ว่าในที่สุดก็กลับมาตายรังอะไรเงียะ... เอ๊ะ นี่คำชมแน่เรอะ

3. เมื่อแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ล่อแหลม หากใครกล้าแต่งตัวแบบนี้ก็อยากโชว์

ซึ่งเป็นสิทธิส่วนบุคคลของผู้ที่อยากแต่งตัวชู้วับ ชู้วับ ล่ะนะ ถ้าหล่อนคิดว่า แต่งตัวแบบนี้แล้วแฟนชอบ หรือแต่งตัววับๆแวมๆแล้วจะได้เจอ "คนถูกใจ" เร็วๆ ก็เชิญเถอะย่ะ แต่ต้องทำใจหน่อยละกัน ว่าหล่อนคงจะไม่แคล้วถูกสายตาภายนอกแทะโลมแอนด์ถาก ถางเอาแหงๆ...ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับดีกรีของ การแต่งตัวของสาวๆแหละว่าวาบหวิวสยิวกิ้วขนาดไหน หนำซ้ำแต่งตัวอ่อยเหยื่อ เอ้ย...หาคนรู้ใจปานนี้ ถ้าเลือกชุดไม่เข้ากับบุคลิกของตัวเองหรือใส่ให้ถูกกาลเทศะของงานที่ไปละก็ แฮ่ แฮ่ แฮ่....สาวที่แต่งหวิวรายนี้ย่อมถูกเม้าท์ตะรึม ตึ่ม ตึม แหงๆเยย อย่างน้อยอาจถูกหาว่าเป็นโคโยตี้น่ะซี

4. ยามเลิกกับแฟน ก็โดนสับอีก

แหม ที่จริงน่าจะคอยให้กำลังใจสาวเจ้าที่กำลังเศร้าใจจากการแยกทางกับแฟนของหล่อนนะ แต่ เผอิ๊ญ มีบางกรณีที่ใครๆเคยเตือนหล่อนแล้วว่าอย่าไปเลือก หนุ่มปากหวานแต่ใจคดแสนโลเลคนนั้นมาเป็นแฟนเล้ย แต่หล่อนก็ไม่เชื่อ เพราะอยากลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง แล้วเป็นไงล่ะ พอเจอเสือเขี้ยวตันไม่ใช่แมวเชื่องอย่างที่หล่อนหวังไว้ ก็ย่อมน้ำตาตกในหยั่งงี้แหละ บอกแล้วว่าอย่าไปเลิฟกับหนุ่มฉายาเสือผู้หญิงก็ไม่เชื่อ ดังนั้น แทนที่ใครๆจะสงสารกลับถูกนินทากาเลแทนน่ะซี

5. นึกว่าตัวสวยซะเต็มประดา ก็หาว่าไม่เจียมจนได้สิน่า

โถ ถ้าหล่อนเป็นนางงามผ่านเวทีประกวดมิสยูนิเวิร์ส หรือมิสเวิลด์ แล้วได้ตำแหน่งแห่งหนมาแล้ว เธอก็น่าจะมีความมั่นใจในความสวย สวยปนมั่นใจในความงามเป็นเลิศของตัวเองดิ่ แต่หากหลง ผิดคิดไปเองว่าตัวเองสวยซะเหลือเกิน แถมยังสวยเกินหน้าเกินตาเพื่อนสาวรอบๆตัวของหล่อนซะด้วย ทั้งที่หล่อนน่ะฟันเหยิน, ร่างใหญ่, ผมหงอก แต่เผอิ๊ญ เผอิญ หน้าตาโดยรวมมองแล้วกลับสวยเนียน ถึงงี้ก็ไม่น่าจะ "อวย" เข้าข้างตัวเองเกินลิมิตนะ ขืนโอ่เกินงาม ถึงได้ถูกเม้าท์สนั่นลั่นตลาดไงเล่า

6. เวลามีคนมามะรุมมะตุ้มแจกรัก ก็โดนอิจฉาตาร้อนและ

โธ่ ก็หล่อนมีเสน่ห์แล้วยังเซ็กซี่ไม่หยุดไม่ หย่อนนี่นา จึงช่วยไม่ได้ที่จะมีหนุ่มๆมาติดพัน แจกขนมจีบซาลาเปาไม่เว้นแต่ละวัน แหมถ้าเอาขนมจีบซาลาเปาไปแจกเพื่อนๆได้ก็ทำซะนะ เผื่อเพื่อนๆจะได้อานิสงส์มีใครมาติดพันด้วยไง แล้วคนที่ชอบเอาขนมจีบมาแจกน่ะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นมั่งก็ได้ เช่น เอาเพชรเอาพลอยมาแจกเงียะ...ขนหน้าแข้งไม่ร่วงหรอกรู้น่า! แต่หล่อนดิ่กลับยังไม่อยากลงหลักปักฐานเป็นแฟนของใครสักที เพราะมีตัวเลือกเยอะมั้ง จึงไม่รู้จะเลือกใครดี เอ๊ะ หรือชอบนวยนาดเป็นสาวโสดเนื้อหอมไปเรื่อยๆก่อนวะเนี่ย ซึ่งถือเป็นความโชคดีของหล่อนแหละ แต่แทนที่จะมีเสียงไชโยโห่ หิ้วยินดีปรีดาที่หล่อนสามารถทำให้หนุ่มๆมาสยบเธอได้ กลับไม่งั้นสิ เพราะพวกคนรอบข้างหล่อนน่ะ อุ้ย อิจฉาตาร้อนกันเป็นแถว ถึงจ้องรุมเม้าท์ ให้หล่อนโดนรถไฟหลายขบวนชนประสานงากันอย่างจังซะที หมั่นไส้หล่อนก็อย่าออกนอกหน้านักสิแม่คู้น


ส่วนใครโดนเม้าท์ก็อย่าซีเรียสเคร่งเครียดน้อยใจนานนัก เพราะใครๆก็โดนทั้งนั้น ยิ่งถูกเม้าท์ เรื่องไม่จริง เดี๋ยวขาเม้าท์ทั้งหลายก็ต้องใช้กรรม ที่ก่อไว้เอง เชื่อสิ


สนับสนุนข้อมูล ไทยรัฐ

 
นตฺถิ โลเก อนินฺทิโต
การไม่ถูกนินทา ไม่มีในโลก

:: u n z e e n :: The Idea no.403

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

:: u n z e e n :: Trunk in Great Style

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]

[]