Monday, September 24, 2007

:: u n z e e n :: วันที่ป่าของเราหมดไป

[]

[J][A][A]

~ Unzeen Mailing List ~
Knowledge and Entertainment
Join this group, go to website ' http://groups.google.com/group/unzeen '
or send blank e-mail to ' unzeen-subscribe@googlegroups.com '

- ที่มาจาก Fwd Mail -
กรุณาใช้วิจารณญาณในการอ่าน

 

แล้ววันนั้นก็มาถึง
อยากส่งถึงทุกท่านในประเทศไทยจัง!!!

 

 ..บางท่านอาจแปลกใจที่ทำไมธรรมชาติจึงได้โหดร้ายรุนแรงขึ้นทุกวัน
แต่สำหรับผมแล้ว..ไม่แปลกใจเลยสักนิดทำไมน่ะหรือ..
เพราะเห็นตำตาอยู่ทุกวี่วันแถมขยายวงกว้างออกไปอย่างรวดเร็ว..


..ภาพแรกผืนพรมสีเขียว..ป่าอันอุดมสมบูรณ์ของลุ่มน้ำสาละวิน..
ที่มันยังคงเขียวอยู่ได้เพราะอยู่ห่างไกลผู้คน..
แถมดินแดนแถบนี้ยังมีการรบของชนกลุ่มน้อยอยู่ตลอดเวลา..
มีแต่ทหารเท่านั้นถึงจะกล้ามายังดินแดนแถบนี้..

 

 ..เมื่อมีความเจริญ..มีการพัฒนา
(ในภาษาของธรรมชาติการพัฒนาของมนุษย์คือ..การทำลายล้างธรรมชาติ)
มีถนนลากยาวไปถึงไหนก็บรรลัยวายวอดที่นั่น..ป่าเริ่มถูกเปิดบริสุทธิ์..จุดเริ่มต้นของหายนะ..

 

..ท่านอาจไม่เชื่อว่ามนุษย์มีพรสวรรค์ในทางทำลายล้างอย่างหาสัตว์พันธ์ไหนมาทาบรัศมีได้ยาก
ภูเขาบางลูกมีอายุยืนยาวมานับร้อยนับพันปี
แต่มนุษย์เพียงคนเดี่ยวสามารถถากถางป่าจนเหี้ยนได้ภายในเวลาไม่กี่วัน
 

 ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นจุดสีขาวๆ เล็ก ๆ อยู่ 2-3 จุดด้านบนขวามือ
นั่นเป็นกระท่อมหลังน้อยที่ผู้บุกรุกอาศัยอยู่..คนไม่น่าจะเกิน
5 คน
แต่สามารถ่ทำลายป่าจนภูเขาหมดเป็นลูกๆ น่าชื่นชมซะไม่มี

 

 เมื่อมีผู้ว่าราชการมารับตำแหน่งใหม่ๆ ท่านได้ขอ ฮ.ทบ.
เพื่อบินสำรวจอาณาเขตป่าที่ท่านต้องรับผิดชอบ
ก่อนขึ้นเครื่องท่านได้พูดถึงนโยบายที่วาดไว้สวยหรูเรื่องการอนุรักษ์ป่า
จนผมฟังแบบเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก
แถมยังแอบอมยิ้ม..ท่านบอกว่ากับพวกผมว่า
"ถ้าระหว่างบินไปทำงานแล้วพบเจอว่ามีการตัดไม้ทำลายป่าให้แจ้งท่านเป็นการส่วนตัวได้ตลอดเวลา"

 

..ยิ่งบินลึกเข้าไปในป่า.เสียงของท่านผู้ว่า ฯ ก็เบาลงเรื่อยๆ
บางช่วงก็ถึงกับเงียบจนผมต้องหันไปมองดูว่าท่านยังสบายดีอยู่หรือเปล่า
ผมกลัวว่าท่านจะช็อกกับภาพที่เห็นกระจะตาอยุ่เบื้องล่าง
และเป็นการได้เห็นด้วยตาของตนเองต่างจากรายงานบนแผ่นกระดาษอย่างสิ้นเชิง
 

 

ภูเขาหมดเป็นลูกๆ แบบนี้บ้านผมเรียกว่า "วายวอด" ไม่ใช่การบุกรุกป่า
แต่เป็นการทำลายล้างป่าต้นน้ำของประเทศไทยให้สูญพันธ์ไปอย่างรวดเร็วที่สุด
ท่านผู้ว่าฯ ของผมไม่ได้ถึงกับเงียบจนเกินไปนัก
เพราะบางช่วงแม้เสียงใบพัด ฮ.จะดังสนั่นหวั่นไหว
หูผมอาจฝาดไปก็ได้..เพราะผมคิดว่าผมได้ยินเสียงท่านผู้ว่าฯ ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่
ผมเองก็ไม่แน่ใจว่าอุดมการณ์อันแรงกล้าของท่านที่จะยืนหยัดรักษาป่าต้นน้ำไว้ให้ลูกหลานคนไทย
จะยังคงเหนียวแน่นมั่นคงอยู่หรือเปล่า..ในยามที่ได้มาเห็นความจริงต่อหน้าต่อตาแบบนี้..
 

 

 ไม้มีค่าจำพวก "ต้นสักทอง" จะถูกตัดโค่นและขนลำเลียงออกมาก่อน
ส่วนที่เหลือก็ไม่มีความหมายอันใด จัดการฌาปนกิจป่าทั้งป่าให้ไปสู่ที่ชอบที่ชอบ
ยามเมื่อคนตัดไม้เหน็ดเหนื่อยยังมีเวลาได้พัก
ตกกลางคืนก็มีเวลาได้นอนหลับพักผ่อนมีเวลาให้ป่าได้พักจากการถูกทำลาย
แต่การทำลายป่าด้วยวิธีการเผา ไฟป่าจะโหมไหม้ตลอด
24 ชม. ไม่มีเวลาได้หยุดพัก
ไฟจะลามต่อเนื่องกินพื้นที่นับร้อยนับพันไร่เพียงข้ามคืน
ท่านลองดูด้วยตาจะเห็นว่าควันไฟจากการเผาทำลายป่ามันสามารถทำให้ป่าทั้งป่ามืดคลึ้ม
ท้องฟ้าที่เคยเป็นสีฟ้ากลับกลายเป็นสีเทา
ผมไม่ได้หมายถึงป่าจำนวน
10 หรือ 100 ไร่
แต่มันหมายถึงป่าที่ผมมองไปจนสุดสายตาแต่ไม่เห็นอะไรเลย..นอกจากควันไฟ..

 

 ..แล้วเมืองก็ผุดขึ้นกลางป่า..กลางหุบเขา..รีสอรท์เอย..โรงแรมเอย..ไหนจะสนามกอล์ฟ
ไร่ส้ม..พืชผักปลอดสารพิษ.ภาพนี้ถ่ายจากอำเภอแม่ริม จ.เชียงใหม่..

  

..รีสอร์ทกลางหุบเขาของใครเอ่ยยย ขอเชิญท่านมาเป็นแขกของเรา
บรรยากาศท่ามกลางขุนเขา..อากาศบริสุทธิ์..และถ้าท่านใดเคยเป็นลูกค้ารีสอร์ทประเภทนี้
ขอยินดีกับท่านด้วยที่ท่านเป็นหนึ่งในผู้เห็นดีเห็นงามกับการทำลายป่า
เงินของท่านจะได้เป็นส่วนหนึ่งของกองทุน
ในการทำลายป่าขยายกิจการของรีสอร์ทออกไปให้เจริญรุดหน้า


ยามที่ท่านตื่นขึ้นยาม เช้า..เดินไปออกไปชื่นชมธรรมชาติที่ระเบียงห้องพักของรีสอร์ท
พร้อมกับสูดลมหายใจอันแสนบริสุทธิ์ของป่าเข้าไปเต็มปอด
และรำพึงรำพันออกมาด้วยความสุข
ขอให้ท่านรับรู้ว่า..ป่ากำลังร้องไห้.ความสุขของท่านยืนอยู่บนซากศพของต้นไม้นับร้อยนับพัน

 

ลองนึกภาพดูว่าในร่องเขาแบบนี้..ถ้าฝนตกลงมา
กระแสน้ำจากบนภูเขาจะไหลไปทางไหน..เป้าหมายของมันก็คือหมู่บ้านเชิงเขา
และเราก็จะได้เห็นภาพของการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ได้อ่านข่าวทั้งจากหนังสือพิมพ์และนั่งดูข่าวผ่านทีวีทุกช่องด้วยความตกอกตกใจ
ว่ามันเป็นไปได้อย่างไร ทำไมธรรมชาติช่างโหดร้ายกับมนุษย์ผู้ใสซื่อตัวเล็กๆ


คนตายก็ตายไป พวกที่อยู่ก็ยังคงถากถางทำลายป่าแลกเงินกันต่อไปหามีจิตสำนึกไม่
บทเรียนกี่ครั้งที่ผ่านมาไม่ได้ช่วยให้เราฉลาดขึ้นเลยสักนิด
ธรรมชาติปรับตัวเป็นเรื่องปกติ แต่มนุษย์เองมิใช่หรือที่นำพาตัวเองเข้าไปอยู่ในที่ๆ ไม่ควรอยู่
เหมือนไปนอนอยู่กลางถนนท่ามกลางอันตรายจากรถยนต์ที่วิ่งผ่านไปมา
ยามเมื่อมีการตายการสูญเสียเราจะโทษป่า โทษภัยธรรมชาติว่าโหดร้ายได้อย่างไร


สองมือยังถากถางทำลายป่ากันไม่หยุด แต่ปากก็ร้องถามว่า
ทำไมธรรมชาติจึงโหดร้ายนัก มันช่างไม่ยุติธรรมกับมนุษย์ตัวเล็กๆ เลย
ทำไมไม่ต่างคนต่างอยู่ ธรรมชาติมายุ่งกับมนุษย์ทำไม


.เฮ้อออออ...มนุษย์หนอมนุษย์..!!!

 

 เมื่อฝนเริ่มตก..ด้วยความลาดชันของภูเขา
ดินที่ปราศจากการยึดด้วยรากของต้นไม้ เมื่อปริมาณน้ำยิ่งมากขึ้น
ดินก็ยิ่งมีน้ำหนักเพิ่มมากขึ้นทุกทีจากการอมน้ำไว้ด้วยปริมาณมาก
แล้วมันก็จะพังทลายลงมา..ไหลลงไปรวมกันในร่องเขา
พัดกวาดท่อนซุงที่มนุษย์ทิ้งไว้บนเขาลงมาด้วย
ยิ่งภูเขาสูงชันเท่าไร กระแสน้ำที่ไหลลงมาจะมีความเร็วและรุนแรงบ้าคลั่ง
พัดกวาดต้นไม้ชนิดถอนรากถอนโคน จุดหมายของพวกมันคือ หมู่บ้านและเมืองเบื้องล่าง

 

หมู่บ้านในหุบเขา..ตามเชิงเขาจะโดนถล่มก่อนเป็นการปลดปล่อยพลังครั้งแรกของมัน
ในภาพไม่ใช่กองไม้จิ้มฟัน แต่เป็นซุงขนาดต่างๆ ไหลลงมาจากภูเขาเข้าถล่มหมู่บ้าน
ขอย้ำว่า..มันคือท่อนซุงครับท่าน

 

 ..มองไปทางไหนไม่เห็นอะไรเลย..นอกจากท่องซุงและทะเลโคลน..

 

 ..บริเวณนี้เคยเป็นนาข้าวลุ่มแม่น้ำที่เขียวขจี..แต่ตอนนี้มีแต่โคลนหนาเป็นฟุต..

 

 ..ลงมาดูที่พื้นด้านล่าง.คราวนี้เชื่อหรือยังล่ะครับ
ว่าที่มองเห็นทางอากาศเหมือนไม้จิ้มฟันมันเป็นท่อนซุงจริงๆ

 

..กองนี้แยกไม่ออกเลยว่าอะไรเป็นอะไร..

  

..เหลือเพียงเสาโด่เด่..มันเคยเป็นอาคารเรียนมาก่อน
จะมองเห็นซากของเสาธงที่เด็กๆ ใช้เคารพธงชาติยามเช้าด้านซ้ายมือ..

 

 นายทุนรวยเอารวยเอา นอนสบายอยู่ในเมืองครับ
ส่วนชาวบ้านเป็นเหยื่อรับจ้างตัดไม้ก็ถูกจับ
เวลาเกิดภัยจากธรรมชาติตัวชาวบ้านเองก็เป็นผู้รับเคราะห์
น่าสงสารที่สุดคือชาวบ้านตาดำๆ ทำไปด้วยความไม่รู้ว่าผลที่ตามมาจะรุนแรงขนาดไหน
เงินและทรัพย์สมบัติที่สร้างสมมาจากการรับจ้างตัดไม้
ยามธรรมชาติมาทวงคืนต้องคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย
คือชีวิตของตัวเองหรือไม่ก็เป็นคนในครอบครัวที่ตัวเองรัก


ป่าปิดไปนานแล้วครับ แต่ประตูหลังไม่ได้ปิดแถมยังเปิดกว้างกว่าประตูหน้าซะอีก
นับจากวันที่ประกาศปิดป่าต้นไม้ยังคงถูกลำเลียงออกจากป่าไม่มีวันหยุด
ก่อนปิดป่า ป่าจะถูกตัดทำลายอย่างถูกกฏหมายจากเจ้าของสัมปทานเพียงกลุ่มเดียว
ซึ่งเขาจะคอยสอดส่องไม่ให้ชาวบ้านเข้ามากอบโกยผลประโยชน์แข่งกับพวกเขา
แต่พอปิดป่ายกเลิกทุกสัมปทานป่าก็กลายเป็นของสาธารณะ
พวกนายทุนเจ้าของสัมปทานเดิมก็แอบเข้าไปตัด
ชาวบ้านก็ร่วมสังฆกรรมด้วย ต่างคนต่างทำงานของตัวเองอย่างแข็งขัน
ไม่มีใครว่าใคร..มือใครยาวสาวได้สาวเอา..สุดท้ ายก็..เละ

 

 ..คนสมัยก่อนพึ่งพาอาศัยป่าด้วยความเคารพในฐานะที่ป่าคือชีวิต
คือแหล่งอาหาร.คือแหล่งของสมุนไพรรักษาโรค คือที่อยู่อาศัย
ทุกคนอยู่กันอย่างพอเพียงล่าสัตว์ได้
1 ตัว ก็กลับบ้านกินหมดแล้วค่อยไปออกล่าหาเอาใหม่
ตัดไม้พอปลูกบ้านอาศัยก็เพียงพอแล้ว..ป่าก็สงบเรียบร้อย..


แต่ปัจจุบันทุกอย่างเป็นเงินเป็นทอง..ทุกคนต่างแข่งขันกันสร้างฐานะไม่รู้จักพอ
เพื่อสะสมเงินทองให้ได้มากที่สุด
สุดท้ายทุกคนต้องมาร่วมกันชดใช้..เราต้องมาเผชิญกรรมร่วมกัน..

 

ไม่ว่าจะอยู่ในป่าหรือในเมือง
ความเดือดร้อนจากผลของการกระทำของคนเพียงหยิบมือได้ส่งผลมาถึงคนที่อยู่ในเมือง
นับพัน..นับหมื่น..นับแสน..และนับล้าน..


สะพานขาด..!!!
 

 

 ..ถนนพัง..!!!

 
ภาพชุดต่อไปเห้นชัดอย่างไม่น่าเชื่อ..แปลกใจตัวเองเหมือนกันว่าถ่ายภาพชุดนี้มาได้อย่างไร

รีสอร์ทริมธารน้ำแสนสวย..เร่งปลูกสร้างเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวที่จะมาถึง..

Before..!!!

 ..After..!!!

 

..And After..!!!  

 

..And ๆๆๆๆๆๆ After..!!!  

 

..จะมีสักวันใหมหนอ..!!!
วันที่มนุษย์ได้คิด..ว่าเราเป็นเพียงเถ้าธุลีเมื่อเทียบกับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่
เรากล้าประกาศก้องว่าเราสามารถเอาชนะธรรมชาติได้
แต่เพียงธรรมชาติขยับตัวเพียงเบาๆ พวกเราก็ตายเกลื่อนวิ่งหางจุกก้น


เราจะรู้กันหรือเปล่า..ว่าคนโบราณไม่เคยคิดจะเอาชนะธรรมชาติ
คิดเพียงว่าจะอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างไรให้เป็นสุข
บรรพบุรุษของเรามีพิธีสักการะแม่โพสพ
พิธีขอขมาต่อสายน้ำและเรียกสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชีวิตว่าแม่พระคงคา
เรียกผืนแผ่นดินว่าแม่พระธรณี พวกเขาเคารพนบนอบต่อธรรมชาติ
และธรรมชาติก็หล่อเลี้ยง พวกเขาเป็นการตอบแทน..ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันอย่างสงบสุข


แต่ในวันนี้เราเนรคุณต่อธรรมชาติผู้มีพระคุณ
เราเหิมเกริมมองธรรมชาติเป็นบ่อเงินบ่อทองเพียงเพื่อตักตวงผลประโยชน์อย่างเห็นแก่ตัว
ไม่มีการเคารพยำเกรงเหมือนบรรพบุรุษของเราเคยได้กระทำ


เมื่อลูกมันไม่รักดี..หยิ่งผยอง..
ก็สมควรแล้วที่จะถูกท่านตบหน้าสั่งสอนฉาดใหญ่เพื่อให้ลูกๆ ได้สติ
แต่ลูกมันดื้อด้านไม่เคยจดจำ..บทเรียนที่ผ่านมาหลายต่อหลายครั้ง..
คราบน้ำตาที่ไหลอาบไปทั้งประเทศครั้งแล้วครั้งเล่าจากการสูญเสีย
ไม่เคยสร้างบทเรียนใหม่ๆ ให้พวกเราได้รู้สำนึก..
แต่พวกเรายังคงเดินย่ำอยู่บนหนทางเส้นเดิม..หนทางไปสู่หายนะที่ยิ่งใหญและรุนแรงกว่า.


.ธรรมชาติทั่วโลกพร้อมใจกันเพิ่มดีกรีความรุนแรงมากขึ้นทุกที..
แต่เราก็ยังไม่เคยได้คิด..ยังคงมุ่งมั่นล้างผลาญทำลายธรรมชาติกันต่อไป
ด้วยอัตราการล้างผลาญที่มั่นคงสม่ำเสมอ..
เราคงต้องโดนตบหน้ากันทุกปีและถูกตบถี่ขึ้นเรื่อยๆ
เตรียมตัวเตรียมใจกันให้ดี..เราเตือนท่าน (เป็นครั้งที่ล้านเจ็ด) แล้ววว..!!!!

 

 ..ตอนยุค "ป่าสาละวิน" พวกผมบินผ่านและมองลงไป
เห็นไม้นับพันท่อนผูกเป็นแพลอยอยู่เต็มแม่น้ำสาละวิน
ก่อนที่มันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ระดับประเทศ
ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้นยามเกิดภัยพิบัติครั้งใดเราก็จะบริจาคเพียงสิ่งของบรรเทาทุกข์
แต่ไม่เคยมีหน่วยงานใดเข้าไปให้ความรู้ชาวบ้านอย่างจริงจังเลยว่า
ที่พวกเขาต้องเจอกับสภาพเช่นนี้เป็นเพราะเหตุใด..เมื่อเหตุการณ์ร้ายๆ
ได้ผ่านพ้นไปมันก็จะกลับมาเป็นหมือนเดิม..เหมือนที่มันเคยเป็น..เหมือนไม่มีอะไรเคยเกิดขึ้น
กรรมมันมีช่วงเวลาให้ผลครับ..ใครทำก็ต้องรับเอาไปไม่มีทางปฏิเสธ
ส่วนจะช้าหรือเร็วไม่มีใครกำหนดได้..ข้าราชการหลายคนต้องถูกจับเข้าคุก
ถูกปลดจากตำแหน่งและยึดทรัพย์..ครอบครัวต้องทนได้รับความอับอาย
และถูกประนามจากคนรอบข้าง นายทุนบางคนเป็นอำมพาตร่ำรวยเงินทอง
แต่ต้องทุกข์ทรมานเงินสกปรกที่เพียรหามาช่วยอะไรไม่ได้เลยสักนิด
บางคนหันมาเล่นการเมืองก็ถูกฆ่าจากฝ่ายตรงข้าม
บางคนแม้จะมีหน้ามีตายศตำแหน่งใหญ่โต
แต่ก็ต้องอมทุกข์แทบกระอักออกมาเป็นเลือดยามเมื่อสิ้นอำนาจวาสนา
บางคนอาจต้องเข้าคุกตอนแก่
แล้วเราจะได้เห็นกันว่ากฏแห่งกรรมมันเที่ยงตรงและยุติธรรมเพียงใด

 

 ..บางทฤษฏีเชื่อว่าป่า..ธรรมชาติรวมทั้งโลก..มันมีชีวิต..
โลกตั้งอยู่ได้ด้วยความสมดุลย์ถ้ามีจุดใดจุดหนึ่งขาดความสมดุลย์
มันจะปรับตัวเองเพื่อคืนเข้าสู่ความสมดุลย์ของมัน..
ถ้าป่าถูกทำลายป่าก็จะปรับตัวเองคืนเข้าสู่ความสมดุลย์..
ต้นไม้ต้นไหนตายก็จะมีต้นใหม่เกิดขึ้นมาทดแทน..
แต่เมื่อมีมนุษย์ระบบฟื้นฟูตัวเองก็ไร้ผล..เพราะป่าไม่มีโอกาสได้โงหัวจากการถูกทำลาย
แม้สักวันมนุษย์ไม่เปิดโอกาสให้ป่าได้ฟื้นฟูตัวเอง
และป่ามันมีระบบป้องกันตัวเองที่จะกำจัดผู้รุกรานหรือผู้ที่ทำอันตรายกับมัน
และตอนนี้ศัตรูตัวฉกาจและเป็นภัยอันใหญ่หลวงสำหรับธรรมชาติก็คือมนุษย์ตัวจ้อย
แต่ใหญ่โตด้วยด้วยความอวดดี..เราเหมือนเด็กอมมือที่ไร้เดียงสาหยิบระเบิดมาแกะเล่น
โดยไม่ได้รู้ถึงอันตรายที่กำลังจะตาม
ตอนนี้ธรรมชาติอาจกำลังคบคิดกันตอบโต้เล่นงานมนุษย์..
เพื่อความอยู่รอดของธรรมชาติและโลก..
ลองดูข่าวสารจากทั่วโลกจะเห็นว่าธรรมชาติดูจะโหดร้ายขึ้นทุกวัน..
ทั้งแผ่นดินไหว..ภูเขาไฟระเบิด..น้ำท่วมโคลนถล่ม..
ยุโรปมีคนตายจากคลื่นความร้อนบางปีนับหมื่นคน..
เขตร้อนบางแห่งมีหิมะตก..แผ่นดินไหวกับประเทศไทยดูจะกลายเป็นเรื่องตลก
ถ้าพูดคุยเรื่องนี้กันเมื่อประมาณ
20 ปีก่อน
แต่ทุกวันนี้เราไม่ใช่ประเทศผู้โชคดีที่จะรอดจากเหตุแผ่นดินไหวแบบ
100%
เมื่อก่อนถ้าใครพูดว่าไทยเป็นประเทศที่เสี่ยงกับการเกิดคลื่นสึนามิ
คนพูดคงถูกหาว่าบ้า..แต่วันนี้พวกเรานั่งฟังกันด้วยความหวาดกลัวและวิตก
 

 
 
' Please keep your inbox empty to keep your membership status active. '
 

No comments: