Sunday, January 13, 2008

:: u n z e e n :: ไม่อ้วนเอาเท่าไร ?

[]

[]

ไม่อ้วนเอาเท่าไร ?


          ข่าว สุขภาพ เผย เกร็ดความรู้ บทความ เรื่อง อ้วน ไม่อ้วน รู้ได้จาก รอบเอว เพื่อป้องกัน โรคอ้วน และ โรคอ้วน นำไปสู่ โรค ต่างๆ อีกสารพัด แถม รอบเอว ยังหนาเป็นชั้นแลดูน่าเกลียด เอาเป็นว่าไปดู เกร็ดความรู้ บทความ เรื่อง อ้วน ไม่อ้วน รู้ได้จาก รอบเอว เพื่อนำไป ลดความอ้วน และดูแลป้องกันตัวเอง   

โรคอ้วน

          เป็นข่าวไปไม่นานมานี้ เมื่อเหล่ารัฐมนตรีไปร่วมกิจกรรมในโครงการ "คนไทยตระหนักรู้รักรอบเอว" กัน หรือพูดง่ายๆ คือ ไปร่วมกันเช็คสุขภาพผ่าน "รอบเอว" ผลก็คือเหล่ารัฐมนตรที่เข้าร่วมโครงการล้วนมีรอบเอวเกินมาตรฐานมากน้อยแตกต่างกันไป คำแนะนำที่ท่านๆ ได้รับคือต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินเพื่อลดรอบเอวลงให้จงได้

          แล้วรอบเอวที่เกินมานี่แปลว่าอะไร ?

          รอบเอวที่มีมากหรือน้อยนั้นเกิดจากปริมาณไขมันในช่องท้อง ผลการศึกษาพบว่า เอวที่เพิ่มขึ้นทุกๆ 5 เซนติเมตร จะเปิดโอกาสให้คนๆ นั้นเป็นโรคเบาหวานเพิ่มขึ้น 3-5 เท่า อันเป็นที่มาของโรคร้ายนานาชนิด ทั้งโรคหลอดเลือดหัวใจ ไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง หลอดเลือดในสมองอุดตันหรือแตก โรคหัวใจ

          โรคที่ว่ามาล้วนแต่เป็นตัวการที่คร่าชีวิต มีการคาดการณ์ว่าในปี 2563 จะมีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวมากถึง 25 ล้านคน ที่สำคัญยังมีการพบว่า ผู้ป่วยจะมีแนวโน้มที่อายุน้อยลงเรื่อยๆ

          ต้นเหตุสำคัญเกิดจากพฤติกรรมที่คุ้นชินกับการ นั่งๆ นอนๆ ไม่ค่อยเคลื่อนไหวร่างกาย ขาดการออกกำลังกาย กินผักผลไม้น้อยแต่กินอาหารที่มากไปด้วยพลังงานและไขมันมาก พฤติกรรมที่ว่าจึงทำให้โรคอ้วนถามหา

          ยิ่งอ้วนมากเท่าไร น้ำหนักเกินเท่าไร ยิ่งจะทำให้หัวใจที่ทำหน้าที่นำเลือดไปหล่อเลี้ยงร่างกายทำงานหนักมากขึ้นเท่านั้น มีผลทำให้หลอดเลือดเกิดความผิดปกติ เป็นต้นเหตุของโรคอื่นๆ มากมาย

          ส่วนการวัดรอบเอวนั้นจะต้องยืนวัดในส่วนที่แคบที่สุดของลำตัวหรือกึ่งกลางระหว่างซี่โครงซี่สุดท้ายกับกระดูกสะโพกด้านหน้า สายจะต้องไม่หย่อนหรือแน่นเกินไป อย่าลืม ผู้หญิงต้องไม่เกิน 80 เซนติเมตร หรือ 32 นิ้ว ส่วนผู้ชายต้องไม่เกิน 90 เซนติเมตร หรือ 36 นิ้ว

          ถ้าใครเกินไม่ว่าจะมากหรือน้อย ควรเร่งคุมน้ำหนักและลดขนาดรอบเอวโดยด่วน

          ส่วนวิธีการที่จะควบคุมรอบเอวไม่ให้พุ่งกระฉูด นักโภชนาการแนะว่า ต้อง "กินให้เป็น" ควบคุมปริมาณอาหารให้พอเหมาะ ลดข้าว แป้ง น้ำตาล ไขมัน เพิ่มโปรตีนจาธรรมชาติที่ยังไม่ผ่านการแปรรูป อย่างเต้าหู้ ถั่ว งาและธัญพืชต่างๆ ผัก ผลไม้หลากสีที่ไม่หวานมาก เลี่ยงอาหารมันจัด หวานจัด และเค็มจัด ประเเภท ขนมปัง เค้ก คุกกี้ มันฝรั่งทอด โรตี เป็นต้น

          อีกวิธีหนึ่งคือ ให้ยึดมื้อเช้าเป็นมื้อหลัก แต่ละมื้อควรกินแค่พออิ่ม มื้อเย็นควรกินให้ห่างจากเวลานอนไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมง เพื่อให้ระบบการย่อยทำงานได้เต็มที่ และระบบการทำงานอื่นๆ มีเวลาได้พักผ่อน

          ท้ายที่สุด อย่าลืมออกกำลังกายลดพุงด้วย อาทิตย์ละ 3 วัน ครั้งละ ไม่ต่ำกว่า 30 นาที

          ไม่ว่าใครจะใช้วิธีการใด เพียงแค่คุณทำน้ำหนักให้ลดลงได้ 5-10% นั่นเท่ากับว่าไขมันในช่องท้อง จะหายไปไม่ต่ำกว่า 30% เลยทีเดียว

          รู้อย่างนี้แล้ว อย่ารั้งรอ...เริ่มปฏิบัติการลดหุ่น...โดยพลัน!!



ข้อมูลและภาพประกอบจาก

No comments: