โกรฟส์กับมอลต์บี สาวที่พูดเต็มปากเต็มคำว่าตัวเองเป็นสัตว์เลี้ยงในร่างมนุษย์
แม้คุ้นเคยกับสายตาสนเท่ห์และคำวิจารณ์ แต่ทาชา มอลต์บี ที่บอกว่าตัวเองเป็นสัตว์เลี้ยงในร่างมนุษย์ ไม่คิดมาก่อนว่าตนและแฟนหนุ่มจะถูกไล่ลงจากรถเมล์
มอลต์บี และดานี เกรฟส์ ฉุนควันออกหูจนตัดสินใจไปร้องเรียนบริษัทผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทาง
"เป็นการเลือกปฏิบัติชัดๆ มันเกือบจะเหมือนกับอาชญากรรมแห่งความเกลียดชังเลยทีเดียว" นักศึกษาภาควิชาเทคโนโลยีดนตรีวัย 19 ปี ระบายและว่า
"ฉันเป็นสัตว์เลี้ยง ปกติแล้วฉันจะใช้ชีวิตง่ายๆ เหมือนสัตว์ ไม่ทำอาหาร ไม่ทำความสะอาด และไม่ไปไหนโดยไม่มีดานี อาจฟังดูแปลกๆ แต่เราทั้งสองคนมีความสุข นี่เป็นวัฒนธรรมและสิ่งที่ฉันเลือก ซึ่งไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน"
แต่ดูเหมือนคนขับรถเมล์ไม่ยอมฟัง เขายืนกรานไม่ยอมให้เกรฟส์ วัย 25 ปี และ 'สัตว์เลี้ยง' ขึ้นรถ
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนที่แล้ว ขณะที่เกรฟส์ใช้โซ่ล่ามคอและจูงมอลต์บีมายืนรอรถโดยสารอยู่ที่ป้าย เมื่อรถมาถึงและประตูเปิดออก คนขับที่ออกเวรแล้วยืนอยู่ใกล้ประตูรถ
"เขากระชากเสื้อและผลักผมลงจากรถ และพูดว่า 'เราไม่ให้พวกสติเพี้ยนพาหมาขึ้นรถหรอก'"
อีกครั้งหนึ่ง ตำรวจถูกตามมายังที่เกิดเหตุ เมื่อคนขับรถที่ไม่เปิดเผยชื่อ ไม่ยอมให้ผู้โดยสารอื่นๆ ขึ้นรถ หลังจากที่เกรฟส์และมอลต์บีขึ้นไปนั่งบนรถโดยไม่ฟังเสียงทัดทาน
หนุ่มสาวคู่นี้ที่ยังชีพด้วยสวัสดิการจากรัฐ มีแผนแต่งงานกันในอนาคต หลังจากคบหากันเป็นเพื่อนมานานหลายปี
ทั้งคู่เริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันเมื่อกลางปีที่แล้ว และหมั้นกันเดือนพฤศจิกายน
ทางด้านอาร์ไรฟ์วา บริษัทผู้ให้บริการรถโดยสารประจำทางในยอร์กเชียร์ อังกฤษ ไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเฉพาะเจาะจงแต่อย่างใด แต่แถลงขอโทษหากหนุ่มสาวผู้คลั่งไคล้แฟชั่นสไตล์โกธิกคู่ดังกล่าวรู้สึกว่าถูกเลือกปฏิบัติ
อย่างไรก็ดี โฆษกบริษัทสำทับว่า คนขับที่ถูกร้องเรียนกังวลกับความปลอดภัย และบริษัทยินดีให้บริการหนุ่มสาวทั้งคู่ เพียงแต่ขอให้มอลต์บีถอดโซ่ล่ามคอออกก่อนขึ้นรถ
No comments:
Post a Comment