ทำไปได้ "เจ.เค." เผยเอง "ดัมเบิลดอร์" เป็นพ่อมดเกย์! |
โดย ผู้จัดการออนไลน์ | 21 ตุลาคม 2550 03:36 น. |
|
อัลบัส ดัมเบิลดอร์ ของหนูๆ กลายเป็นเกย์ไปซะแล้ว | |
| | คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น | | | | | กระแสการเปิดเผยรสนิยมทางเพศที่ปกปิดในยุคนี้ไม่ได้เป็นที่นิยมแต่ในหมู่มักเกิ้ลเท่านั้น เมื่อมีการเปิดเผยจาก "เจ.เค. โรว์ลิง" เจ้าของงานเขียน "แฮร์รี่ พอตเตอร์" วรรณกรรมเยาวชนชื่อดัง ว่าตัวละครรายหนึ่งในนิยายสุดดังของเธอเป็นชาวรักร่วมเพศ ซึ่งเขาก็คืออาจารย์ใหญ่แห่งโรงเรียนเวทมนต์ฮอกวอตส์ "อัลบัส ดัมเบิลดอร์" นั่นเอง! ในการไปปรากฏตัวในงาน Open Book Tour ที่ Carnegie Hall ในนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาของ เจ.เค. โรว์ลิง นักเขียนสาวชาวอังกฤษ ซึ่งเป็นการมาพบปะกับแฟนหนังสือรุ่นเยาว์ในสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี และในการให้สัมภาษณ์ต่อแฟนหนังสือหลังจากที่เธออ่านตอนหนึ่งของ Harry Potter and the Deathly Hallows ผลงานชิ้นสุดท้ายของนิยายสุดกระฉ่อนเรื่องนี้เรียบร้อยแล้ว เธอก็ถูกยิงคำถามโดยแฟนรุ่นเยาว์คนหนึ่งว่า อัลบัส ดัมเบิลดอร์ อาจารย์ใหญ่แห่งฮอกวอตส์และพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่ที่เฝ้าคอยช่วยเหลือ แฮร์รี่ พอตเตอร์ ตัวเอกของเรื่องมาตลอดนั้น มีความรักเหมือนคนทั่วไปหรือเปล่า "ดัมเบิลดอร์เป็นเกย์" นักเขียนสาวใหญ่ประกาศต่อแฟนหนังสือที่ฮือฮาและปรบมือยินดีกันยกใหญ่ โดยเธอเปิดเผยว่าดัมเบิลดอร์นั้นเกิดความรักไม้ป่าเดียวกันตั้งแต่ยังเป็นเด็กหนุ่ม ซึ่งผู้ที่ละลายหัวใจของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่รายนี้ได้แก่ พ่อมดหนุ่ม เกลเลิร์ต กรินเดลวัลด์ คู่หูของเขาที่เต็มไปด้วยเสน่ห์และความสามารถ แต่โชคร้ายที่ความสัมพันธ์ของทั้งสองจะต้องเปลี่ยนไปเป็นศัตรูคู่อาฆาต เมื่อหนุ่มที่เขาหลงรักกลับไปหลงใหลในศาสตร์มืดเสียแทน เจ.เค.อธิบายต่อไปว่าสิ่งนั้นทำให้ดัมเบิลดอร์ผิดหวังอย่างรุนแรง จนทำให้เขาเลือกที่จะกำจัดผู้ที่เคยได้ชื่อว่าเป็นรักแท้ของเขา ในการประลองที่รู้จักกันในโลกของพ่อมดว่าเป็นการต่อสู้ด้วยไม้กายสิทธิ์ขั้นสุดยอดของความดีและความชั่ว "การตกหลุมรักทำให้เราตามืดบอดอย่างเลวร้าย" เจ.เค.กล่าวถึงความรู้สึกของดัมเบิลดอร์ โดยย้ำว่าความรักในชีวิตของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่รายนี้ "เป็นโศกนาฏกรรมที่ร้ายกาจ" "ถ้ารู้แต่แรกว่าคุณชอบกันขนาดนี้ ฉันบอกไปตั้งแต่แรกด็ดี" นักเขียนสาวจอมเซอร์ไพรส์กล่าว เรื่องการเปิดเผยรสนิยมทางเพศที่แท้จริงของพ่อมดรายนี้ เกิดขึ้นระหว่างการเตรียมบทในการถ่ายทำ Harry Potter and the Half-Blood Prince ฉบับภาพยนตร์ตอนที่ 6 ที่เน้นไปที่ความผูกพันที่ใกล้ชิดมากขึ้นระหว่างพ่อมดใหญ่และตัวแฮร์รี่ พอตเตอร์ เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของเขากับจอมโฉดโวลเดอมอร์ในวัยหนุ่มที่เขารับเข้ามาสู่ฮอกวอตส์ด้วยตัวเอง ที่ทาง เดวิด เยตส์ ผู้กำกับที่มารับงานต่อในภาคนี้ได้ร่างบทคร่าวๆ เกี่ยวกับความรักในชีวิตวัยหนุ่มของดัมเบิลดอร์กับเด็กสาวคนหนึ่ง ก่อนที่เจ.เค.จะไปสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องในรสนิยมที่แท้จริงของพ่อมดผู้ยิ่งใหญ่รายนี้ ซึ่งยังไม่มีรายงานว่าการปรับความเข้าใจของผู้อ่านและผู้ชมครั้งนี้ จะส่งผลถึงการรับบทของ ไมเคิล แกมบอน ที่ต้องจะรับบทพ่อมดหัวใจสีม่วงรายนี้ในอีก 2 ภาคที่เหลือ ที่จะออกฉายในปี 2008 และ 2010 หรือเปล่า การที่เขาไม่เคยถูกเอ่ยถึงเรื่องความรัก โดยเฉพาะกับผู้หญิง พร้อมทั้งเบื้องหลังที่เต็มไปด้วยปริศนาของเขา ทำให้บรรดาแฟนๆ หนังสือบนอินเตอร์เน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์รสนิยมทางเพศที่แท้จริงของพ่อมดรายนี้กันไปทั่ว โดยเฉพาะในแฟนฟิคชัน หรือเรื่องราวที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเองโดยเหล่าแฟนหนังสือที่ต่างก็ระบายพฤติกรรมของดัมเบิลดอร์กันไปต่างๆ นานา "นึกดูซิว่าแฟนฟิคต่อไปจะวุ่นวายแค่ไหน" เจ.เค.กล่าวอย่างรู้ทัน แม้จะเป็นงานเขียนที่ผู้คนให้ความชื่นชอบอยู่ทุกมุมโลก แต่ก็มีหลายเสียงออกมาต่อต้านวรรณกรรมเยาวชนเรื่องนี้อยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะในสหรัฐฯแห่งนี้ที่มีกลุ่มชาวคริสต์ออกมากีดกันผลงานของเธอในฐานะเครื่องมือในการเผยแพร่แนวคิดเรื่องพ่อมดแม่มด ซึ่งเธอก็ทำใจแล้วว่าการออกมาเปิดเผยความจริงด้านรสนิยมทางเพศให้กับดัมเบิลดอร์ จะเปิดช่องให้ขาประจำของเธอมีเหตุผลที่จะจงเกลียดจงชังเธอได้สะดวกขึ้น
| | | | | | |
' เคลียร์เมลล์บ๊อกซ์ให้ว่าง เพื่อรับเมลล์ดีๆ แบบนี้ทุกวัน '
No comments:
Post a Comment